วันแรก |
กรุงเทพ – เดลลี- ลัคเนาว์ |
05.30 น. |
คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินเจ็ท แอร์เวย์ โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกก่อนขึ้นเครื่อง
|
หมายเหตุ |
บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ ปฏิวัติและอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ และบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
|
09.00 น. |
ออกเดินทางโดยสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 63
|
11.55 น. |
ถึงสนามบินนานาชาติอินทิรา คานธี ประเทศอินเดีย ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย หนึ่งชั่วโมงครึ่ง) เมืองเดลลี เป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย อุดมไปด้วยทัศนียภาพกว้างใหญ่ไพศาลที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยป้อมปราการ ตึกสูงตระหง่าน เรือนชานละบ้านช่อง ถนนกว้างใหญ่ของเมืองนิวเดลีทอดยาวสู่ถนนสายเล็กสู่เมืองเดลลีเก่า เป็นมหาอาณาจักรที่รวบรวมความหลากหลาย ทั้งเก่าใหม่ ล้ำสมัย ล้าสมัย มั่งมีและยากจน ให้อยู่ด้วยกันอย่างน่าอัศจรรย์ รอต่อไฟล์ทไปเมืองลัคเนาว์
|
14.50น. |
ออกเดินทาง โดยสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 2254 |
16.15 น. |
ถึงสนามบินลัคเนาว์ เมืองหลวงของรัฐอุตรประเทศ ได้รับฉายานามว่าเมืองอาหรับราตรี ตั้งชื่อตามชื่อของพระลักษณ์ น้องชายของพระราม ต่อมาได้ถูกเรียกเพี้ยนไปจนกลายเป็นชื่อในปัจจุบัน เมืองลัคเนาว์ เป็นเมืองที่มีประชากรหนาแน่นมากเมืองหนึ่งของอินเดีย ปัจจุบันมีผู้คนอาศัยอยู่ ประมาณ 2.6 ล้านคน และก็เป็นชุมทางรถไฟที่จะเชื่อมต่อไปยังเมืองเดลลี จัยเปอร์ และเมืองอื่นๆ
|
เย็น |
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
|
พักที่ โรงแรม LINEAGE HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่สอง |
ลัคเนาว์ – สาวัตถี (B/L/D) |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
|
นำท่านเดินทางสู่เมืองสาวัตถี |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
|
นำท่านเดินทางสู่วัดเชตวัน มหาวิหาร เป็นวัดที่ท่านอนาถบัณฑิกะเศรษฐี สร้างถวายเป็นอารามแห่งแรกในเมืองสาวัตถี จากนั้นชมบ้านท่านอนาถบัณฑิกะเศรษฐี ,บ้านท่านองคุลีมาล สถานที่ธรณีสูบพระเทวทัตและนางจิญมาญวิกา พระพุทธเจ้าเสด็จมาประทับและประกาศศาสนาอยู่ที่เมืองสาวัตถีนี้นานถึง 24 พรรษา สาวัตถี เป็นเมืองกษัตริย์โบราณ ซึ่งมีพระนามว่า สารวัตถะ ( SARAVAST )เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมีสถูปโบราณ วัดเก่าแก่ และวิหารจำนวนมาก เป็นที่เล่าสืบกันต่อมาว่าพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ที่นครสาวัตถี นี้หลายครั้ง และเมืองสาวัตถีมีต้นโพธิ์ ที่มีชื่อเสียงซึ่งเรียกกันว่า อานันท์โพธิ์ (ANOND BODHI TREE) ซึ่งพระอานนท์ นำเอาเมล็ดโพธิ์สุกจากต้นโพธิ์ที่พุทธองค์ทรงตรัสรู้มาปลูกไว้ทางเข้าพระมหาวิหารเชตวัน
|
เย็น |
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
|
พักที่ โรงแรม ASHOK GREEN หรือเทียบเท่า |
วันที่สาม |
สาวัตถี-สวนลุมพีนี (เนปาล)(B/L/D) |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
|
นำท่านเดินทางสู่ลุมพินี ประเทศเนปาล (ประมาณ 5 ชั่วโมง) ถึงพรมแดนอินเดีย -เนปาล ที่ด่านโสเนาลี เดินทางเข้าสู่ เมืองสิทธารัตถะ
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
|
นำเดินทางสู่สวน ลุมพินีวันสังเวชนียสถานที่แห่งที่ 1 เมือง ไภลวะ ฝั่งเนปาล สถานที่ที่เชื่อว่าเป็นที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากนั้นชม ชม มายาเทวีวิหาร อาคารที่สร้างครอบทับแผ่นหิน เชื่อกันว่าเป็นจุดที่ตั้งของต้นสาละที่พระนางสิริมหามายาประทับยืนเหนี่ยวให้ประสูติเจ้าชายสิทธัตถะจากทางด้านพระปรัศว์ (สีข้าง) ชมประติมากรรมนูนต่ำสลักจากหิน ภาพพระนางสิริมหามายาให้ประสูติพระกุมาร ชม เสาศิลา ที่เชื่อกันว่าสร้างและสลักจารึกโดยพระเจ้าอโศก มหาราช เป็นตัวอักษรพราหมี แสดงใจความของการเสด็จมาบูชาสวนลุมพินีวันของพระองค์ ชมสระน้ำ ที่เล่ากันว่าเป็นที่พระนางสิริมหามายาเสด็จมาชำระล้างร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์ก่อนให้ประสูติพระกุมาร
|
เย็น |
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
|
พักที่ โรงแรม NANSC HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่สี่ |
ลุมพินี(เนปาล-) กุสินารา (B/L/D) |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
|
นำท่านออกเดินทางโดยรถโค้ชสู่เมืองกุสินารา( ประมาณ 6ชั่วโมง) |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
นำท่านนมัสการ สังเวชนียสถานแห่งที่ 2 กุสินารา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่งสำหรับผู้แสวงบุญชาวพุทธ เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน โดยมีปัจฉิมวาจา กับภิกษุทั้งหลายว่า บัดนี้เราขอเตือนเธอทั้งหลายว่า สังขาลทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด สถานที่ระลึกในเหตุการณ์ครั้งโน้น คือ วิหารมหาปรินิพพาน ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางต้นสาละ และทรงอุปสมบทให้กับสุภัททปริพาชก เป็นสาวกองค์สุดท้ายที่พระพุทธองค์ทรงบวชให้ และบำเพ็ญธรรมได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ บริเวณแห่งนี้ยังมี พระพุทธรูปปางไสยาสน์ มีจารึก กำหนดอายุ เก่าแก่กว่า 1,400 ปี ถูกคนพบในปี 1876 พระพุทธรูปองค์นี้ถูกนำมาประดิษฐานในรัชสมัยของพระเจ้ากุมารคุปต์ในศตวรรษที่ 5 นำนมัสการสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้าที่ มกุฎพันธเจดีย์
|
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
|
พักที่ โรงแรม LOTUS NIKO HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่ห้า |
กุสินารา-พาราณสี (B/L/D) |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
|
นำท่านออกเดินทางสู่เมืองพาราณสี (ประมาณ 6 ชั่วโมง) |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
|
นำท่านเดินทางสู่เมืองสารนาท อยู่ห่างจากเมืองพาราณสี ประมาณ 10 กม. นมัสการสังเวชนียสถานที่แห่ง 3 นมัสการสถูปเจาคันที และธัมเมกขสถูป ที่เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาเมื่อกว่า 2500 ปีมาแล้ว หลังจากที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ ปัจวัคคีย์ทั่ง5 ที่เคยที่เคยเฝ้าปรนนิบัติและละทิ้งเมื่อเห็นว่าพระองค์เลิกบำเพ็ญทุกกิริยา พระพุทธองค์ทรงทำให้ปัจจวัคคีย์ทั้ง5 เลื่อมใส และทรงแสดงธัมจักกัปปวัตนสูตร อันเป็นพระธรรมเทศนากัณณ์แรก และก่อให้เกิดสังฆรัตนะ คือ มีพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ครบสมบูรณ์ทั้งสามประการ มีการสืบทอดประเพณีตามหลักพระพุทธศาสนาเผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า มีการประชุมสงฆ์ครั้งแรกโดยมี ยสะ ซึ่งเป็นบุตรของเศรษฐีแห่งกรุงพาราณสีและบริวารอีก 54 คน ได้ฟังธรรมและเกิดดวงตาเห็นธรรมพร้อมกันทั้งหมด ข้อความเริ่มต้นของบทสวดมนต์ที่ว่า พุทธธัง สารณัง คัจฉามิ ถือกำเนิดมาจากเมืองสารนาทนี่เอง พระรัตนตรัยตามความหมายที่ว่า (ข้าพระพุทธเจ้าขอยึดถือพระพุทธเป็นที่พึ่ง, ข้าพระพุทธเจ้าขอยึดถือพระธรรมเป็นที่พึ่ง, ข้าพระพุทธเจ้าขอยึดถือพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง)
แล้วนำชมวิหารมูลคันธกุฏิหลังใหม่ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาเลียนแบบคุปตะ และจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพุทธประวัติฝีมือช่างชาวญี่ปุ่น จากนั้นนำเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งเมืองสารนาถ ชมหัวเสาพระเจ้าอโศก มหาราช ทำเป็นรูปสิงห์ บางท่านอธิบายว่าเป็นสัญลักษณ์ของศากยสิงห์ พระราชวงศ์ของพระพุทธเจ้า เสามีฐานบัวคว่ำ มีบัลลังก์สี่เหลี่ยมสลักเป็นรูปธรรมจักร และรูปช้าง ม้า สิงห์และโค พร้อมชมโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบในบริเวณเมืองสารนาถและเมืองใกล้เคียงเช่นพระพุทธรูปศิลปะแบบคันธาระแบบมถุราแบบคุปตะและแบบปาละฯลฯแล้วนำชมโบราณวัตถุชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์ พระพุทธรูปแบบคุปตะปางปฐมเทศนา ที่ค้นพบบริเวณใกล้ๆกับมูลคันธกุฎี สถานที่จำพรรษาแรกของพระพุทธเจ้า “อนึ่งศิลปะคุปตะได้รับการยกย่องว่างดงามและสมบูรณ์แบบที่สุดในศิลปะอินเดียทั้งมวล และเมืองสารนาถยังเป็นศูนย์กลางของโรงเรียนสกุลช่างคุปตะที่อายุเก่าแก่ถึง1,400 ปีมาแล้ว”
|
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
|
พักที่โรงแรม INDIA HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่หก |
พาราณสี - พุทธคยา (B/L/D) |
05.00 น. |
เดินทางสู่แม่น้ำคงคาบริเวณที่ไหลผ่านเมืองพาราณสี นำเดินลงสู่ ฆาฏ (GHAT) “ความหมายทางวิชาการ หมายถึงขั้นบันไดลงไปที่ท่าน้ำหรือแหล่งน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ สำหรับผู้แสวงบุญ ” จุดที่ผู้แสดงบุญชาวฮินดูมาอาบน้ำชำระร่างกายให้เป็นสิริมงคล ซึ่งมีมากมายกว่า 80 ฆาต นำล่องเรือผ่าน ฆาต ต่างๆ ส่วนที่เผาศพชาวฮินดูที่เชื่อว่า แม่น้ำคงคาจะช่วยชำระความบริสุทธิ์ให้ผู้ตายและนำวิญญาณสู่สรวงสวรรค์ ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคาอัน ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเพิ่มพลังและความเป็นมงคลให้กับทุกท่าน
|
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
|
นำท่านเดินทางสู่เมืองพุทธคยา |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
|
นำท่านนมัสการ พุทธคยาสังเวชนียสถานแห่งที่4 สถานที่น่าเชื่อกันว่าเป็นที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ซึ่งค้นพบโดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษ ชื่อเซอร์อเลกซานเดอร์ คันนิงแฮม เมื่อร้อยกว่าปีก่อน โพธคยา (พุทธคยา) นับว่าเป็นศูนย์กลางการแสวงบุญของชาวพุทธที่สำคัญที่สุด เป็นสถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงเจริญสมาธิหลังจากได้แรงดลใจจากความทุกข์ทั้งหลายของมวลมนุษย์ ต้นโพธิ์ที่เราได้เห็นทุกวันนี้เชื่อว่าเติบโตจากต้นศรีมหาโพธิ์ดั้งเดิมที่ทรงตรัสรู้แนวทางในการพ้นทุกข์ นมัสการมหาโพธิ์วิหาร สถาปัตยกรรมผสมผสานกลมกลืนกันของหลายวัฒนธรรม ตัววิหารมีลักษณะของสถาปัตยกรรมในยุคราชวงศ์คุปตะ มีพระพุทธรูป พระพุทธเมตตา ประดิษฐานข้างใน จากนั้นชมบ้านนางสุชาดา ธิดาเศรษฐีแห่งอุรุเวลาเสนานิคม นำข้าวมธุปายาสมาถวายแก่พระโพธิสัตว์ หลังจากที่ได้ทรงเสวยแล้วก็ทรงเสด็จไปริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ทรงอธิษฐานเสี่ยงบารมี ถ้าได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอให้ถาดลอยทวนน้ำ แล้วเสด็จกลับไปยังโคนต้นโพธิ์ คนหาบหญ้าชื่อโสตถิยะ ผ่านมาเกิดความเลื่อมใส จึงถวายหญ้า 8กำ และทรงตรัสรู้ด้วยความจริงอันประเสริฐสี่ประการ
|
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
|
พักที่ โรงแรม DELTA INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่เจ็ด |
พุทธคยา-ราชคฤห์-ปัฎนา (B/L/D) |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
|
นำท่านเดินทางสู่ เมืองราชคฤห์ ซึ่งมีความหมายว่าพระราชวัง เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์และสำคัญต่อพุทธศาสนิกชน นำท่านขึ้นเขา เขาคิชกูฏ เพื่อนมัสการถ้ำ พระมหาโมคคัลลานะ และ ถ้ำสุกร ที่พระสารีบุตรบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ และ กุฏิพระอานนท์ พุทธอนุชา ร่วมสวดมนต์เจริญภาวนา ณ คันธกุฏิของพระพุทธเจ้าบนยอดเขาคิชกูฏ จากนั้นลงจากเขามุ่งหน้าสู่ วัดเวฬุวัน วัดแห่งแรกของพระพุทธศาสนา ที่สร้างถวายโดยพระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งแคว้นมคธผู้อุทิศตนทำนุบำรุงศาสนา และสถานที่แห่งนี้ยังถือกำเนิดวันมาฆบูชา พระอรหันต์จำนวน 1250 รูปมารวมกันโดยมิได้นัดหมาย
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
|
นำท่านเดินทางสู่ เมืองนาลันทา นาลันทา มีความหมายว่าเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยดอกบัว มหาวิทยาลัยนาลันทา นับเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกที่มีหนังสือมากถึง9 ล้านเล่ม มีนักศึกษาราว 10,000 คน มีอาจารย์ประมาณ 2,000 คน และยังเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ซึ่งรุ่งเรือถึงขีดสุดในช่วงเวลาตั้งแต่ศตวรรษ 5-12 ก่อนจะถูกทำลายในสมัยต่อมามีบันทึกกล่าวว่าหอสมุดนี้ไหม้อยู่เป็นเวลาหลายเดือน หลวงจีนอี้จิง(พระถังซัมจั๋ง) ซึ่งจาริกมาในระยะเวลาประมาณ พ.ศ. 1223 ก็ได้มาศึกษาที่นาลันทาและได้เขียนบันทึกเล่าไว้อีก นาลันทารุ่งเรืองสืบมาช้านานจนถึงสมัยราชวงศ์ปาละ (พ.ศ. 1303-1685) กษัตริย์ราชวงศ์นี้ก็ทรงอุปถัมภ์มหาวิหารแห่งนี้ เช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยอื่นๆ
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมือง ปัฎนา เป็นเมืองเก่าแก่ที่ยังมีผู้อาศัยอยู่ต่อเนื่องยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเมืองแห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นมคธ ที่ตั้งโดยพระเจ้าอชาตศัตรู หลังจากพุทธกาล เมืองนี้มีความสำคัญ เพราะได้กลายเป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธและมีพระมหากษัตริย์ดำรงตำแหน่งพระจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของอินเดีย คือพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งราชวงศ์เมารยะ ผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง ทรงอุปถัมภ์การทำตติยสังคายนา ณ อโศการามโดยให้เมืองปัฏนา (หรือปาตลีบุตร ตามที่เรียกกันในสมัยนั้น) เป็นศูนย์กลางในการส่งสมณทูตออกเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปยังดินแดนอื่นๆ ทั่วโลก
|
เย็น |
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร |
|
พักที่ โรงแรม CHANAKYA HOTEL หรือเทียบเท่า |
วันที่แปด |
ปัฎนา – เดลี – อัครา (B/L/D) |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
|
นำท่านเดินทางสู่สนามบินปัตนะ |
12.50 น. |
ออกเดินทาง โดยสายการบินเจ็ท เอเซีย เที่ยวบินที่ 9W 728 |
14.30 น. |
เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอินทิรา คานธี ประเทศอินเดีย ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย หนึ่งชั่วโมงครึ่ง) เมืองเดลลี เป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย อุดมไปด้วยทัศนียภาพกว้างใหญ่ไพศาลที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยป้อมปราการ ตึกสูงตระหง่าน เรือนชานละบ้านช่อง ถนนกว้างใหญ่ของเมืองนิวเดลีทอดยาวสู่ถนนสายเล็กสู่เมืองเดลลีเก่า เป็นมหาอาณาจักรที่รวบรวมความหลากหลาย ทั้งเก่าใหม่ ล้ำสมัย ล้าสมัย มั่งมีและยากจน ให้อยู่ด้วยกันอย่างน่าอัศจรรย์
|
เย็น |
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอัครา |
|
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ที่พัก YAMUNA VIEW หรือระดับเทียบเท่า |
วันที่แปด |
ปัฎนา – เดลี – อัครา (B/L/D) |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม |
|
นำท่านเดินทางสู่สนามบินปัตนะ |
12.50 น. |
ออกเดินทาง โดยสายการบินเจ็ท เอเซีย เที่ยวบินที่ 9W 728 |
14.30น. |
เดินทางถึงสนามบินนานาชาติอินทิรา คานธี ประเทศอินเดีย ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย หนึ่งชั่วโมงครึ่ง) เมืองเดลลี เป็นเมืองหลวงของประเทศอินเดีย อุดมไปด้วยทัศนียภาพกว้างใหญ่ไพศาลที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยป้อมปราการ ตึกสูงตระหง่าน เรือนชานละบ้านช่อง ถนนกว้างใหญ่ของเมืองนิวเดลีทอดยาวสู่ถนนสายเล็กสู่เมืองเดลลีเก่า เป็นมหาอาณาจักรที่รวบรวมความหลากหลาย ทั้งเก่าใหม่ ล้ำสมัย ล้าสมัย มั่งมีและยากจน ให้อยู่ด้วยกันอย่างน่าอัศจรรย์
|
เย็น |
บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองอัครา |
|
นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก ที่พัก YAMUNA VIEW หรือระดับเทียบเท่า |
วันที่เก้า |
อัครา – เดลี (B/L/D) |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก |
|
นำเข้าชม ตัชมาฮาล (Taj Mahal) แหล่งมรดกโลก อนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่และอมตะ ของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ สร้างขึ้นในปีค.ศ.1631 นำเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัว หนังสือภาษาอาระบิค เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อสิ่งรักที่จากไป นำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่สร้างเป็นแนวยาวสู่อาคารตัชมาฮาล แล้วนำเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ ประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหิน เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย อาคารตรงกลางเป็นรูปโดม มีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล และพระเจ้าชาห์จาฮันได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ แล้วนำท่านเดินอ้อมไปด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำยมุนา ที่ฝั่งตรงกันข้ามมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกปรับดินแล้ว เล่ากันว่า พระเจ้าชาห์จาฮันเตรียมที่จะสร้างสุสานของตัวเองด้วยหินอ่อนสีดำในรูปแบบเดียวกันกับตัชมาฮาล เพื่ออยู่เคียงข้างกัน แต่ถูกออรังเซบ ยึดอำนาจและนำตัวไปคุมขังไว้ในป้อมอักราเสียก่อน
จากนั้นนำเข้าชม ป้อมอักรา (Agra Fort) แหล่งมรดกโลกริมแม่น้ำยมุนา ที่สร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปีค.ศ.1565 เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) พระเจ้าชาห์จาฮาน ได้สร้างสร้างขยายต่อเติมป้อม และพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต นำเข้าชมป้อมผ่านประตูอำมรรสิงห์ เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวังผ่านลานสวนประดับ อ่างหินทรายสีแดงขนาดยักษ์สำหรับสรงน้ำ ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมสามยุคสมัยตามรสนิยมที่แตกต่างกันของสามกษัตริย์ นำเข้าชมด้านในพระตำหนักต่างๆ ที่สลักลวดลายศิลปะแบบโมกุลที่มีอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย ผสมผสานกับศิลปะเปอร์เซีย ชมพระตำหนักมาซัมมัน บูร์ช ที่มีเฉลียงมุขแปดเหลี่ยม มีหน้าต่างเปิดกว้าง สามารถมองเห็นตัชมาฮาลได้ ที่พระตำหนักนี้เองที่เล่ากันว่าชาห์จาฮัน ถูกพระโอรสออรังเซบ จองจำขังไว้ 7 ปีในช่วงปลายรัชกาลจนสิ้นพระชนม์ แล้วนำเดินขึ้นสู่ระเบียงชั้นที่สองที่มีเฉลียงมุข ซึ่งสามารถมองเห็นชมทิวทัศน์ลำน้ำยมุนาได้ ชมลานสวนประดับที่เคยเป็นตลาดมีนาบาซ่าร์ ซึ่งพระเจ้าชาห์จาฮันได้พบรักครั้งแรกกับพระนางมุมตัซที่นำสินค้าเป็นสร้อยไข่มุกเข้ามาขาย จากนั้น อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
|
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
บ่าย |
จากนั้นพาท่านกลับไปยังกรุงเดลลี |
เย็น |
รับประทานอาหารเย็น หลังจากนั้น นำท่านเดินทางเข้าที่พัก |
|
พักที่ MARBLE ARCH HOTEL หรือระดับเทียบเท่า |
วันที่สิบ |
เดลี – กรุงเทพฯ (B/--/--) |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
|
13.00 น |
ออกเดินทาง โดยสายการบินเจ็ท แอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 9W 64 |
18.35 น. |
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ |
|
|
อัตราค่าบริการ |
ผู้ใหญ่ |
เด็กเสริมเตียงพักรวมกับผู้ใหญ่ |
เด็กไม่เสริมเตียงพักรวมกับผู้ใหญ่ |
พักเดี่ยว |
12 – 21 ก.ย. 57 |
53,900 |
53,900 |
52,900 |
12,000 |
6 – 15 พ.ย. 57 |
8-17 ส.ค. 57 |
54,900
|
54,900
|
53,900
|
13,000
|
17 – 26 ต.ค. 57 |
5 – 14 ธ.ค. 54 |
|
|
|
หมายเหตุ |
การเดินทางอาจมีปัญหาเฉพาะหน้าขึ้น ผู้บริการขอสงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขสับเปลี่ยนรายการตาม ความจำเป็นและเหมาะสม แต่จะรักษาผลประโยชน์ของ ท่านตามสิทธิ์ที่มีและจะแจ้งให้ผู้เดินทางทราบก่อนทุกครั้ง
|
|
|
อัตรานี้รวม |
|
-
ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด ไปกลับ ตามรายการที่ระบุไว้
-
ค่าโรงแรมที่พักตามรายการที่ระบุ (สองท่านต่อหนึ่งห้อง)
-
ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามรายการที่ระบุ
-
ค่าวีซ่าท่องเที่ยวอินเดีย หนังสือเดินทางไทย
-
ค่าอาหารและเครื่องดื่มตามรายการที่ระบุ
-
ค่ารถรับส่งและระหว่างนำเที่ยวตามรายการที่ระบุ
-
ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งที่มี
-
ค่าค่ามัคคุเทศก์คนไทยและเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดการเดินทาง
-
ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ท่านละไม่เกิน 1,000,000 บาท ทั้งนี้ย่อมอยู่ ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต
|
อัตรานี้ไม่รวม |
|
-
ค่ากระเป๋าเดินทางที่น้ำหนักเกินกว่าที่สายการบินกำหนด 20 กก.ต่อท่าน ส่วนเกินลูกค้าต้องจ่ายเอง
-
ค่าทำหนังสือเดินทาง
-
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการ เช่น ค่าเครื่องดื่ม,ค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง,ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีดฯลฯ
-
ค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติหรือคนต่างด้าว
-
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และค่าภาษีบริการหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)
-
ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น วันละ 3US และคนขับรถ วันละ 3US
|
หมายเหตุ |
|
-
ในการจองครั้งแรก มัดจำท่านละ 17,500 บาท หรือทั้งหมด ส่วนที่เหลือชำระก่อนเดินทาง 15 วัน ทำการ พร้อมกับเตรียมเอกสารส่ง ภายใน 2-3 วัน หลังจากทำการจองแล้ว
-
บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
-
บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ ปฏิวัติและอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
-
หากท่านถอนตัวก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
-
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
-
รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
-
ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว
-
กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯจะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สำหรับค่าบริการนั้นๆ
-
มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น
-
หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
-
ในการยื่นขอวีซ่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ทุก ๆ ท่าน กรุณาจัดเตรียมเอกสารให้ครบตามที่ระบุ พร้อมส่งมอบเอกสารประกอบการยื่นวีซ่า ไม่น้อยกว่า 3 อาทิตย์ ก่อนการเดินทาง (ในกรณีที่เอกสารของท่าน ไม่สมบูรณ์ ทางสถานทูตฯ อาจจะปฏิเสธการอนุมัติวีซ่าของท่านได้ และท่านจะต้องเสียค่าธรรมเนียม ใหม่เอง หากต้องการยื่นวีซ่าอีกครั้งหนึ่ง)
-
กรณียื่นวีซ่าแล้วไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่าจากทางสถานฑูต (วีซ่าไม่ผ่าน) และท่านได้ชำระค่าทัวร์หรือมัดจำมาแล้ว ทางบริษัทฯ คืนค่าทัวร์หรือมัดจำให้ แต่ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักค่าบริการยื่นวีซ่า,ค่าวีซ่า และค่าใช้จ่ายบางส่วนที่เกิดขึ้นจริงเป็นกรณีไป (อาทิ กรณีออกตั๋วเครื่องบินไปแล้ว หรือได้ชำระค่าบริการในส่วนของทางเมืองนอก เช่น โรงแรม ตั๋วรถไฟ ฯลฯ ไปแล้ว) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการหักเก็บค่าใช้จ่ายจริงที่เกิดขึ้นแล้วกับท่านเป็นกรณีไป
-
กรณีวีซ่าผ่านแล้ว แจ้งยกเลิกก่อนหรือหลังออกตั๋วโดยสาร บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด
|