วันแรก
|
กรุงเทพ - เดลลี – คยา |
เสาร์ |
05.30 น. |
คณะพร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทยโดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกเรื่องการบริการ Check-in เพื่อให้ท่านได้รับความรวดเร็วในการเดินทางสู่ดินแดนพุทธภูมิ พร้อมรับอภิสิทธิ์พิเศษในการเข้าใช้บริการห้องพักรับรองพิเศษในสนามบินสุวรรณภูมิระหว่างรอขึ้นเครื่อง |
 |
หมายเหตุ |
ทางบริษัทได้จัดเตรียมการเดินทางของคณะทัวร์ 15 วันก่อนการเดินทาง โดยซื้อตั๋วเครื่องบิน, เช่ารถโค้ช, จองโรงแรมที่พัก, ร้านอาหาร ตลอดจนสถานที่เข้าชมต่าง ๆ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมให้กับกรุ๊ปทัวร์ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันสุดวิสัยอาทิ การยกเลิกเที่ยวบิน, การล่าช้าของสายการบิน, การพลาดเที่ยวบิน (ขึ้นเครื่องไม่ทัน), การนัดหยุดงาน, การก่อการจลาจล, ภัยธรรมชาติ รวมถึงการถูกปฏิเสธการเข้าเมือง อันเป็นผลทำให้การเดินทางล่าช้า หรือ ไม่สามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้ตามโปรแกรม หัวหน้าทัวร์ มีสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม และไม่สามารถคืนเงินค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ท่านได้ชำระมาแล้ว เพราะทางบริษัท ฯ ได้มีการตกลงชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว และหากมีค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากในรายการทัวร์ หัวหน้าทัวร์จะแจ้งให้ท่านทราบ เพราะเป็นสิ่งที่ทางบริษัท ฯ มิอาจรับผิดชอบได้ |
 |
07.10 น. |
ออกเดินทางสู่กรุงเดลลี ประเทศอินเดีย โดยเที่ยวบินที่ TG323
|
|
10.40 น. |
คณะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธีประเทศอินเดีย
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว นำคณะทำการแลกเงิน นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคารเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน
|
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
Local |
|
หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สถานีรถไฟ เพื่อขึ้นรถไฟขบวนพิเศษปรับอากาศชั้นหนึ่ง มหาปรินิพพาน เอ็กซ์เพรส ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลอินเดีย สู่ เมืองคยา
|
|
ค่ำ |
รับประทานอาหารเย็นบนรถไฟ |
|
|
พักค้างคืนบนรถไฟขบวนพิเศษ มหาปรินิพพาน เอ็กซ์เพรส |
Onboard |
วันที่สอง |
คยา – พุทธคยา |
อาทิตย์ |
05.30 น. |
ขบวนรถไฟถึงเมืองคยา รัฐพิหาร |
|
เช้า |
รับประทานอาหารเช้าบนรถไฟ |
Onboard |
|
คณะเดินทางถึงเมืองคยา เข้าสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ตำบล พุทธคยา เป็นอำเภอหนึ่งที่ขึ้นอยู่กับจังหวัด คยา เดิมชื่ออุรุเวลาเสนานิคม เข้าสู่ภายในปริมณฑล ต้นพระศรีมหาโพธิ์พุทธคยา และ พระมหาเจดีย์พุทธคยา สถานที่ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณของพระผู้มีพระภาคเจ้า กราบสักการะองค์หลวงพ่อ พระพุทธเมตตา พระพุทธปฏิมากรปางชนะมารอายุ 1,400 ปีเศษ ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายจากน้ำมือกษัตริย์ฮินดูอย่างปาฏิหาริย์ประดิษฐานภายในมหาเจดีย์พุทธคยา ด้วยพระพักตร์ที่แสดงออกด้วยเมตตากรุณาอันเปี่ยมล้นชาวพุทธทั่วโลกจึงต่างพากันเบียดเสียดเพื่อเข้าไปกราบไหว้บูชา สักการะโพธิบัลลังก์ พระแท่นวัชรอาสน์ ภายใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในดินแดนถิ่นพุทธภูมิ และนมัสการสัตตมหาสถาน ที่สำคัญอันอยู่ใกล้เคียง ได้แก่ อนิมิสสะเจดีย์ รัตนฆรเจดีย์ รัตนจงกรมเจดีย์ เป็นต้นชม บ้านนางสุชาดา ธิดากุฎมพี แห่งตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ผู้ถวายข้าวมธุปายาส อันประณีตแด่พระมหาบุรุษก่อนการตรัสรู้อยู่ห่างจากฝั่งแม่น้ำเนรัญชราประมาณ 200 เมตร ปัจจุบันเป็นโบราณสถานซากสถูปขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ชม แม่น้ำเนรัญชรา สายน้ำที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานจิตลอยถาดทองคำที่นางสุชาดาถวายพร้อมข้าวมธุปายาสก่อนวันที่จะตรัสรู้หนึ่งวันเที่ยวชมวัดพุทธนานาชาติ อาทิ วัดไทยพุทธคยา วัดญี่ปุ่น สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับสู่เมืองคยา
|


|
ค่ำ |
รับประทานอาหารเย็น ณ. ภัตตาคารในโรงแรม พักผ่อนตามอัธยาศัย |
Dinner |
วันที่สาม |
พุทธคยา – ราชคฤห์ – พุทธคยา –พาราณสี |
จันทร์ |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
Indian Buffet |
|
จากนั้นออกเดินทางไปที่เมืองราชคฤห์ (ระยะทางจากพุทธคยาประมาณ85 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชั่วโมง) ถึงเมืองราชคฤห์ เมืองที่เคยยิ่งใหญ่ เป็นเมืองหลวงของแคว้นมคธในสมัยพุทธกาลพระพุทธศาสนาได้ประดิษฐานตั้งมั่นที่นี้มาโดยตลอดเพราะการอุปถัมภ์ บำรุงของพระราชาผู้ทรงธรรมของเมืองราชคฤห์จึงเต็ม-ไปด้วยโบราณสถานต่างๆ มากมาย
ชม เขาคิชฌกูฏคือหนึ่งในเบญจคีรีหรือภูเขา 5 ลูกได้แก่เวภาระ เวปุละคิชฌกูฏ อิศิคิลิ และ ปัณฑวะ เขาคิชฌกูฏมีลักษณะเหมือนนกแร้งหรือเป็นที่เกาะอาศัยของฝูงแร้งที่มาคอยกินซากศพโจรที่ถูกประหารและทิ้งลงเหวในบริเวณโดยรอบเขาคิชฌกูฏนั้นนับว่าเป็นที่สัปปายะของเหล่าพระอริยสาวกในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนากล่าวว่าเป็นที่จำพรรษาของพระอรหันต์หลายองค์เช่น พระสารีบุตร พระอานนท์ พระมหากัสสปะ พระอนุรุทธะ พระปุณณมันตานีบุตรและพระอุบาลี เป็นต้น
(การขึ้นเขาคิชกูฏ ซึ่งเป็นการเดินขึ้นที่สูง ลาดชันพอประมาณ ระยะทางโดยรวมประมาณ 750 เมตร ทุกท่านจะต้องเดินขึ้น รถยนต์ไม่สามารถขึ้นไปถึงได้ ผู้ที่แข็งแรงสามารถเดินขึ้นได้ ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีก็ถึง สำหรับท่านที่คิดว่าเดินไม่ไหว ก็สามารถขึ้นได้โดยวิธีการนั่งเสลี่ยง คนหามขึ้น-ลงได้ สามารถแจ้งหัวหน้าทัวร์และมัคคุเทศก์ได้ก่อน เพื่อติดต่อแขกให้เตรียมคานหามไปรอที่เชิงเขา) ชม วัดชีวกัมพวัน เป็นสถานที่ที่หมอชีวกโกมารภัจจ์นายแพทย์ประจำราชสำนักผู้จบการศึกษาจากเมืองตักศิลา มีศรัทธาถวายป่ามะม่วงให้เป็นพระอารามหลวงหรือที่เรียกว่าชีวการาม เป็นโรงพยาบาลสงฆ์แห่งแรกในพระพุทธศาสนา เป็นสถานที่หมอชีวกได้เคยถวายการรักษาพระพุทธองค์เมื่อครั้งที่ถูกสะเก็ดหินที่พระเทวทัตลอบปลงพระชนม์ ปัจจุบันอยู่บริเวณก่อนจะถึงทางขึ้นเขาคิชฌกูฏ
|


|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม |
Indian Buffet |
บ่าย |
นำท่านชม ตะโปทาราม สถานที่อันเป็นต้นบัญญัติสิกขาบทให้พระภิกษุสรงน้ำได้ 15 วันต่อครั้งปัจจุบัน เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่บำเพ็ญบุญของชาวฮินดูอาบน้ำชำระร่างกายเพื่อสิริมงคล ข้างบนจะมีช่องอาบน้ำตามฐานะแห่งวรรณะของตนในแต่ละวันจะมีชาวฮินดูมาอาบน้ำเป็นจำนวนมากเพราะเชื่อกันว่าจะสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้หายได้
เดินทางต่อสู่นาลันทา ซึ่งอยู่ห่างจากราชคฤห์ 16 กิโลเมตร เป็นบ้านเกิดของอัครสาวกซ้าย-ขวา พระโมคคัลลานะ-พระสารีบุตร นาลันทาเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของพุทธศาสนาเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์ที่เคยรุ่งเรืองที่สุดในโลก มีนักศึกษาที่เป็นพระภิกษุจำนวนหมื่น และมีครูอาจารย์สอนถึง1,400 ท่าน ซึ่งได้ถูกทำลายโดยชาวมุสลิม และได้ฆ่าคณาจารย์และพระนักศึกษาจนหมดสิ้น แถมยังเผาอาคารทั้งหมด ปัจจุบันเหลือแต่ซากปรักหักพังสะท้อนความยิ่งใหญ่ในอดีตพระเจ้า อโศกมหาราชได้สร้างไว้เพื่อเป็นที่ศึกษาธรรมและเป็นอนุสรณ์สำหรับอัครสาวกทั้งสองท่าน ปัจจุบันเรียสถานที่แห่งนี้คือหมู่บ้านสารีจักร ทางรัฐบาลได้ทำการขุดค้นในเนื้อที่ 231 ไร่ ในอดีตมหาวิทยาลัยแห่งนี้ประกอบด้วยห้องเรียน ห้องสมุด หอพักนักศึกษา หอสวดมนต์ โรงครัว ยุ้งฉาง บ่อน้ำขนาดใหญ่ ชม วัดเวฬุวันวิหาร เป็นวัดที่พระเจ้าพิมพิสารได้ทรงถวายสวนเวฬุวันให้เป็นพระอารามหลวงแห่งแรกในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงประทับจำพรรษาที่แห่งนี้รวมแล้ว 6 พรรษาเป็นที่ทรงตั้งอัครสาวกคือพระโมคคัลลานะและพระสารีบุตร และเป็นสถานที่ที่พระอรหันต์1,250 รูป มาชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายในวันจาตุรงคสันนิบาตมาฆบูชาและพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่ภิกษุเหล่านั้น หลังจากนั้นเดินทางกลับพุทธคยา ระยะทาง 90 กม. ( เดินทาง 3 ชม.)
|
 |
ค่ำ |
เดินทางสู่สถานีรถไฟเมืองคยา และรับประทานอาหารเย็นบนรถไฟ
|
|
23.00 น |
ออกเดินทางโดยรถไฟจากสถานีเมืองคยา สู่เมืองพาราณสี พักผ่อนบนรถไฟตามอัธยาศัย
|
On board |
วันที่สี่ |
พาราณสี – โครักปูร์ |
อังคาร |
06.00 น. |
ขบวนรถไฟถึงเมืองพาราณสี นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมโดยรถปรับอากาศ
|
|
07.30 น. |
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
Indian Buffet |
|
เดินทางสู่สารนาถ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของกรุงพาราณาสี เดิมเรียกว่า ป่าอิสิปตมฤคทายวัน ที่ได้ชื่อว่าสารนาถ มาจากชาดกในพระชาติของพระพุทธเจ้าที่มาเกิดเป็นที่พึ่งของกวางคำว่าสารนาถ มาจากคำว่า สารังคนาถ แปลว่า ป่าแห่งผู้เป็นที่พึ่งของกวาง มีการกล่าว กันไว้ว่าหลังจากทรงตรัสรู้ พระพุทธเจ้าได้เสด็จเดินด้วยพระบาทจากตำบลพุทธคยา มาสู่ป่าอิสิปตมฤคทายวัน เพื่อโปรดปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เพื่อ ชม เจาคันธีสถูป พระเจ้าอโศกมหาราชโปรดให้สร้าง ขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 240 แล้วได้มีการบูรณะในสมัยต่อมา สถูปนี้มีความสำคัญคือเป็นจุดที่พระพุทธเจ้าได้พบกับปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เป็นครั้งแรก ก่อนที่พระองค์จะได้แสดงปฐมเทศนาชื่อว่า ธรรมจักกัปปวัตนสูตร ยังผลให้พระอัญญาโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมและขออุปสมบทเป็น พระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา ทำให้พระรัตนตรัยสมบูรณ์คือมี พระพุทธ พระธรรม แล พระสงฆ์ ชม ธัมเมกขสถูป นี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยแห่งพระเจ้าอโศกมหาราช เป็นสถูปลักษณะทรงกลมบาตรคว่ำ ต่อมาได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์และต่อเติมเรื่อยมา โดยได้มีการสร้างช่อง 8 ช่องรอบองค์พระเจดีย์เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมทั้งได้มีการแกะสลักหินลวดลายประดับ สวยงาม เป็นที่ๆพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมเป็นครั้งแรก เพื่อโปรดปัญจวัคคีย์ ซึ่งธรรมบทนั้นคือ ธรรมจักกัปวัตนสูตร หลังจากนั้น เมืองสารนาถได้ถึงถูกทำลาย เมื่อกษัตริย์โมกุลนำกองทัพอิสลามเข้ารุกรานอินเดีย พุทธสถานทั้งหลายก็ได้ถูกทำลายลงใน คราวนั้นอย่างมากมาย สารนาถในปัจจุบัน ได้รับการบูรณะโดยการนำของท่านธรรมปาละ ภิกษุชาวลังกาจนมี
สภาพที่เห็นใน ปัจจุบัน นมัสการ พระคันธกุฏิ เป็นกุฏิหลังแรกที่พระพุทธองค์จำพรรษาเป็นพรรษาแรก หลังจากที่ตรัสรู้อนุตรสัมโพธิญาณ แล้วชม สังฆารามกุฎิสงฆ์กว่า 1,000 หลัง
|


|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรม |
Indian Local |
บ่าย |
นำท่านล่องเรือชม แม่น้ำคงคา แม่น้ำอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ชมการอาบน้ำล้างบาป บูชาพระอาทิตย์ ชมการเผาศพริมฝั่งแม่น้ำคงคาที่กว่า 4,000 ปี ไฟไม่เคยดับ เพราะมีการเผาศพอยู่ตลอดเวลาตามความเชื่อที่ว่าที่นี่เป็นท่าของพระศิวะหากนำศพมาเผาและเอากระดูกเถ้าถ่านโปรยลงที่ท่าน้ำนี้จะได้ไปสวรรค์ทำพิธีลอยกระทงดอกไม้และเทียนบูชาพระแม่คงคาและชมพระอาทิตย์ตกดิน ริมฝั่งคงคามหานทีซึ่งเรียกได้ว่างดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
|
 |
19.00 น. |
ออกเดินทางไปยังสถานีรถไฟ เพื่อเดินทางสู่เมืองโครักปูร์ |
|
|
รับประทานอาหารเย็น พักผ่อนตามอัธยาศัยบนรถไฟมหาปรินิพพาน เอ็กซ์เพรส
|
On board |
วันที่ห้า |
โครักปูร์ – กุสินารา |
พุธ |
06.00 น. |
ขบวนรถไฟถึงเมืองโครักปูร์ นำท่านเดินทางสู่เมืองกุสินารา โดยรถปรับอากาศ
|
|
07.30 น. |
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม / จากนั้นพักผ่อนตามอัธยาศัย Indian Buffet
|
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวันทีโรงแรม |
|
|
จากนั้นนำท่านชม สาลวโนทยาน สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน บูชาสักการะ พระพุทธรูปปางอนุฏฐิตไสยาสน์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในมหาปรินิพพานวิหารและเจริญพระพุทธมนต์เจริญจิตตะภาวนา ปิดทองที่ฝ่าพระบาท ถวายผ้าห่มพระประธาน จุดธูปเทียน ปทักษิณรอบปรินิพพานวิหาร แล้วชมสถานที่พระอานนท์ เกาะสลักเพชรร้องไห้ ซากปรักหักพังของกุฎิ เจดีย์ ชมต้นสาละอันเป็นต้นไม้ที่พระพุทธองค์ได้เสด็จดับขันธ์ นมัสการ มกุฎพันธนเจดีย์ สถานที่ถวายพระเพลิง พระสรีระของพระพุทธเจ้าปัจจุบันเป็นซากเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่ สร้างขึ้นมาหลังการถวายพระเพลิงชาวบ้านเรียกว่ารามภาร
|
 |
ค่ำ |
รับประทานอาหารเย็นนำท่านเข้าสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย |
Dinner |
วันที่หก |
กุสินารา – ลุมพินี (ประเทศเนปาล) – โครักปูร์ |
พฤหัสบดี |
เช้า |
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
Indian Buffet |
|
นำท่านเดินทางโดยรถปรับอากาศสู่ลุมพินี ระยะทางประมาณ 4 ชั่วโมง
|
|
|
** ( โปรดเตรียมหนังสือเดินทางไว้กับตัวเพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดีย เข้าสู่ประเทศ เนปาล )** |
|
เดินทางถึงชายแดน อินเดีย-เนปาล ประทับตราหนังสือเดินทาง |
|
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวันที่โรงแรมในลุมพินี |
Indian Buffet |
13.00 น. |
นำท่านนมัสการสังเวชนียสถาน แห่งที่ 3 “ชาตสถาน” สถานที่ประสูติของพระพุทธองค์ สวนลุมพินีวัน ในอดีตเป็นอุทยาน ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง กรุงกบิลพัสตุ์ และกรุงเทวหะ พระพุทธมารดา พระนางสิริมหามายา ซึ่งประทับอยู่กรุงกบิลพัสตุ์ขณะที่ทรงพระครรภ์แก่ ได้เสด็จประพาสสวนพร้อมด้วยข้าราชบริพาร ระหว่างทางเกิดประชวรจะมีพระประสูติกาล ราชบริพารจึงจัดที่ประสูติถวายภายใต้ต้นสาละ ประสูติพระโอรส คือ สิทธัตถกุมาร ณ สถานที่นี้ ปัจจุบันมีเสาหินของพระเจ้าอโศก ปรากฏอยู่ ยังมีข้อความภาษาพราหมีจารึกไว้อย่างสมบูรณ์เขียนว่าเป็นสถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
|
 |
|
ชม มหามายาเทวีวิหาร ภายในมีศิลาสลักภาพพุทธประวัติปางประสูติเป็นรูปพุทธมารดาอยู่ในพระอิริยาบถยืนพระหัตถ์ขวาเหนี่ยวกิ่งไม้สาละมีรูปเจ้าชายสิทธัตถะออกมาทางปัสสะขวาของพระพุทธมารดา ด้านหน้ามหามายาเทวีวิหาร มีสระโบกขรณี ซึ่งเป็นที่สรงสนานของพระนางสิริมหามายาเทวีก่อนจะให้ประสูติกาลพระกุมารและหลังการประสูติ / หลังจากนั้นนำท่านเดินทางกลับผ่านด่านชายแดนอินเดีย – เนปาลอีกครั้งหนึ่ง |
|
16.00 น. |
ออกเดินทางไปยังสถานีรถไฟเมืองโครักปูร์ |
|
20.00 น. |
เดินทางถึงสถานีรถไฟเมืองโครักปูร์ |
|
20.30 น. |
รับประทานอาหารเย็นบนรถไฟ |
On board |
23.30 น. |
รถไฟออกจากสถานีเมืองโครักปูร์ สู่เมืองกอนด้า พักผ่อนบนรถไฟตามอัธยาศัย
|
|
วันที่เจ็ด |
กอนดา – สาวัตถี – กอนดา –อัครา |
ศุกร์ |
05.30 น. |
ขบวนรถไฟถึงเมืองกอนด้า นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมโดยรถปรับอากาศ
|
|
07.30 น. |
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม |
Indian Buffet |
|
เดินทางถึงเมืองสาวัตถี หรือ ศราวัสตี สมัยพุทธกาลเป็นเมืองหลวงของแคว้นโกศลมีพระเจ้าปเสนทิโกศลเป็นกษัตริย์ครองเมือง พระพุทธองค์ทรงประทับบำเพ็ญพุทธกิจในเมืองนี้นานถึง25 พรรษาได้ทรงแสดงพระสูตรพระวินัย และชาดกที่สำคัญๆ เช่น เรื่องนางจิญจมาณวิกา,นันทมาณพ,โจรองคุลีมาล,ปฏาจารา,การเกิดขึ้นแห่งยักษิณี,พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ,มงคลสูตร,กรณียเมตยสูตรเป็นต้น ชม วัดเชตวันวิหาร ที่ซึ่งพระพุทธองค์ประทับจำพรรษา นานถึง 19 พรรษา เป็นศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุด นมัสการพระคันธกุฎี ฤดูร้อน ฤดูหนาว ชมธรรมศาลาที่ใหญ่ที่สุด ธรรมสภา กุฏิพระอรหันต์เช่น พระโมคคัลลา พระสารีบุตร พระสิวลี พระอานนท์ พระราหุล พระองคุลีมาล พระกัสสปะ และอารามฝ่ายพระภิกษุที่เคยจำพรรษาในครั้งพุทธกาล
|
 |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวันในโรงแรม |
Indian Buffet |
|
ชม บ้านท่านองคุลีมาลและอนาถบิณฑิกะเศรษฐี อยู่ในบริเวณพระราชวังของพระเจ้าปเสนทิโกศล เลยพระวิหารเชตวันไปประมาณสามกิโลเมตรปัจจุบันยังมีเขตเมืองสาวัตถีให้เห็นเป็นกำแพงล้อมรอบเมืองและภายในเมืองก็จะมีอาคารสิ่งปลูกสร้างในอดีตที่ถูกฝังไว้ใต้ดินเป็นจำนวนมากปัจจุบันทางรัฐบาลอินเดียได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นสมบัติของทางการและกำลังทำการขุดค้นเพื่อหาหลักฐานทางด้านประวัติศาสตร์
|
 |
วันที่แปด |
อัครา – เดลลี |
เสาร์ |
05.30 น. |
ขบวนรถไฟถึงเมืองอัครา นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมโดยรถปรับอากาศ
|
|
08.00 น. |
รับประทานอาหารเช้าบนรถไฟ |
Buffet |
09.00 น. |
นำท่านชม ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ของ
มหาราชาชาห์จาฮันที่มีต่อนางอันเป็นที่รักยิ่งมหารานีมุมตัส มาฮาล ตัวทัชมา ฮาลสร้าง จากหินอ่อนสีขาวแสดงถึงความรักที่บริสุทธิ์นิรันดร์ตลอดกาลและหิน ทรายสีแดงแสดงถึงความรักที่มั่นคงต่อพระนางเพียงผู้เดียว ตัวทัชมาฮาลประดับประดาด้วยรัตนชาตินานาชนิด ใช้เวลาในการสร้างถึง 22 ปี ชมวิวแม่น้ำยมุนาที่ไหลผ่านด้านหลังได้เวลาพอสมควร นำท่านออกเดินทางสู่เมืองเดลลี โดยรถไฟมหาปรินิพพาน เอ็กซ์เพรส
|
 |
เที่ยง |
รับประทานอาหารกลางวันบนรถไฟรถไฟมหาปรินิพพาน เอ็กซ์เพรส |
Onboard |
ค่ำ |
ถึงสถานีรถไฟซัฟดาจังเมืองเดลลี นำท่านรับประัทานอาหาร ณ. ภัตตาคารในกรุงเดลลี ได้เวลาพอสมควรนำท่านสู่สนามบิน
|
|
23.30 น. |
ออกเดินทางจากเดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG316 |
|
วันที่เก้า |
เดลลี – กรงเทพมหานคร |
อาทิตย์ |
05.25 น. |
ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและประทับใจ |
|
|
|
|
กำหนดการเดินทาง |
08 - 16 พฤษจิกายน 2557 |
22 - 30 พฤษจิกายน 2557 |
06 -14 ธันวาคม 2557 |
03 – 11 มกราคม 2558 |
17- 25 มกราคม 2558 |
14 – 22 กุมภาพันธ์ 2558 |
14 – 28 มีนาคม 2558 |
|
|
|
|
|
ค่าทัวร์ต่อท่าน |
|
ผู้ใหญ่พักห้องคู่ (บนรถไฟห้องละ 4 ท่าน-เตียงบน) ท่านละ |
79,900 |
|
ผู้ใหญ่พักห้องคู่ (บนรถไฟห้องละ 4 ท่าน-เตียงล่าง) ท่านละ |
81,900 |
|
ผู้ใหญ่พักห้องคู่ (บนรถไฟห้องละ 2 ท่าน-เตียงบน/ล่าง) ท่านละ |
87,490 |
ค่าทัวร์รวม |
|
-
ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับชั้นทัศนาจรของสารการบินไทย รวมค่าภาษี และส่วนเพิ่มของน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 8 กันยายน 2557
-
มหาปรินิพานเอ็กเำพรสชั้นหนึ่ง(ห้องละ 2 ท่าน หรือ 4 ท่าน) ตลอดเส้นทางแสวงบุญ
-
ค่าพาหนะท่องเที่ยวตามโปรแกรมที่ระบุ
-
ค่าเข้าชม
-
โรงแรมที่พักตามระบุในรายการ หรือ เทียบเท่าในระดับเดียวกัน (ห้องละ 2 ท่าน)
-
ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ คัดสรรเมนูและให้ท่านได้เลิศรสกับอาหารท้องถิ่น
-
ค่าบริการนำทัวร์โดยหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์นำเที่ยว และคอยดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง 1 ท่าน
|
ค่าทัวร์ไม่รวม |
|
-
ค่าธรรมเนียมวีซ่าอินเดีย และ วีซ่าเนปาล
-
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % และค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3 %
-
ค่าทำหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต)
-
ค่าทิป
-
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอาทิ ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าเครื่องดื่มในห้องพัก และค่าอาหารที่สั่งมาในห้องพักค่าอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษในร้านอาหารนอกเหนือจากที่ทางบริษัทจัดให้ ยกเว้นจะตกลงกันเป็นกรณีพิเศษ
|
การจองทัวร์ |
|
กรุณาจองทัวร์และชำระเงินมัดจำล่วงหน้า 25,000 บาทต่อผู้เดินทางหนึ่งท่าน ภายใน 3 วันนับจากวันที่จองซึ่งเงินมัดจำดังกล่าวจะเป็นการยืนยันการจองของท่าน และกรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือล่วงหน้าและ 21 วันก่อนการเดินทางในช่วงเทศกาล
|
หมายเหตุ |
|
-
บริษัทฯ มีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้
-
บริษัทฯ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ ปฏิวัติและอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
-
หากท่านถอนตัวก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
-
บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ
-
รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
-
ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว
-
กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯจะดำเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สำหรับค่าบริการนั้นๆ
-
มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น
-
หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
-
เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการ และเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
|
|
|
|
|
|
|